สถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก
ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายพระพรชัยมงคล
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ประมวลภาพพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐
เรื่องการจัดพิธีและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ
เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชภิเษก
เมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก ร่วมกับ คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ได้จัดพิธีทำบุญตักบาตรและเจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติ รวมทั้งจัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์โดยการปลูกต้นไม้และทำความสะอาดวัด ณ วัดวชิรธรรมปทีป เขตลองไอส์แลนด์ รัฐนิวยอร์ก โดยมีนายวิทวัส ศรีวิหค เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์กเป็นประธาน พร้อมด้วยนายนิพนธ์ เพ็ชรพรประภาส กงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก ผู้เข้าร่วมประกอบด้วยข้าราชการคณะผู้แทนถาวรฯ ข้าราชการสถานกงสุลใหญ่ฯ ที่ปรึกษาทางทหารประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ผู้แทนจากสำนักงานทีมประเทศไทยในนครนิวยอร์ก พร้อมด้วยคู่สมรส และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ตลอดจนสมาชิกชุมชนไทยนครนิวยอร์กและมลรัฐใกล้เคียงกว่า ๓๐๐ คน
นายวิทวัส ศรีวิหค เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และภริยา ร่วมกับนายนิพนธ์ เพ็ชรพรประภาส กงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก และภริยาได้เป็นเจ้าภาพจัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันจันทร์ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๒ (เวลาท้องถิ่น) ณ The Metropolitan Club of New York โดยมีข้าราชการและเจ้าหน้าที่คณะผู้แทนถาวรฯ และสถานกงสุลใหญ่ฯ ทีมประเทศไทย และชุมชนไทยในนครนิวยอร์กและเมืองใกล้เคียงกว่า ๓๐๐ คนเข้าร่วม โดยผู้ร่วมพิธีฯ ได้รับชมการถ่ายทอดสดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณฯ เสด็จออกสีหบัญชร พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรฯ ได้เปิดกรวยกระทงดอกไม้ถวายราชสักการะและนำผู้ร่วมพิธีฯ ถวายความเคารพและเปล่งเสียงถวายพระพรพร้อมกับการดำเนินการในประเทศไทย นอกจากนั้น ผู้ร่วมพิธีฯ ได้ชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติที่จัดแสดง รวมถึงลงนามถวายพระพรชัยมงคล ภายหลังพิธีเสร็จสิ้นคณะผู้แทนถาวรฯ และสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้จัดเลี้ยงอาหารค่ำแก่ผู้ร่วมพิธีฯ
อนึ่ง The Metropolitan Club of New York เป็นสถานที่ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณฯ เคยเสด็จเมื่อครั้งตามเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อปี ค.ศ. ๑๙๘๕
|
|
|